หวยมาเลย์บาทละเท่าไหร่ ศึกษาอัตราจ่ายหวยมาเลย์ได้ที่นี่

สวัสดีค่ะ ผู้ติดตามเว็บหวยใหญ่ทุกท่าน หากพูดถึงอัตราจ่ายของหวยมาเลย์แล้ว ท่านรู้ไหมคะว่า หวยมาเลย์บาทละเท่าไหร่ อัตราจ่ายทั้งในประเทศไทย และในประเทศที่ทำการออกผลรางวัลอย่างประเทศมาเลเซียนั้นเหมือนหรือแตกต่างกันไหม วันนี้แอดจะมาอธิบายรายละเอียดในทุกประเด็น ให้ทุกท่านเข้าใจมากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

หวยมาเลย์คืออะไร หวยมาเลย์บาทละเท่าไหร่

หวยมาเลย์ หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันว่า “Magnum” เป็นหวยต่างประเทศชนิดหนึ่งที่จะออกผลรางวัลในทุกๆ วันพุธ, วันเสาร์ และวันอาทิตย์ หรือนานๆ ครั้งจะออกผลรางวัลในวันพิเศษ อย่างเช่น วันอังคาร ส่วนเวลาในการออกผลรางวัล จะออกผลเวลาประมาณ 18.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) และหากพูดถึงอัตราจ่ายของหวยชนิดนี้ แอดจะแยกอัตราจ่ายออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

1. อัตราจ่ายของหวยมาเลย์ในประเทศมาเลเซีย
2. อัตราจ่ายของหวยมาเลย์ในประเทศไทย

ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ จะมีราคาจ่ายแตกต่างกันตามรูปแบบการเล่นของแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน หรือแตกต่างกันอย่างไร เราไปทำความเข้าใจพร้อมๆ กันในหัวข้อถัดไปกันเลยค่ะ

อัตราจ่ายหวยมาเลย์ในประเทศมาเลเซีย

สำหรับอัตราจ่ายหวยมาเลย์ในประเทศมาเลเซีย ก่อนอื่นนั้นแอดต้องขออธิบายในส่วนของรางวัลของหวยชนิดนี้ก่อนว่า หวยมาเลย์นั้นจะมีทั้งหมด 23 รางวัลตามรูปภาพด้านล่างนี้ และในแต่ละรางวัลนั้น จะมีอัตราจ่ายแตกต่างกันไปตามรูปแบบการเล่น 5 แบบหลักๆ คือ

• 1. แบบชุดใหญ่
• 2. แบบชุดเล็ก
• 3. แบบสี่ตัวตรง
• 4. แบบสามตัวตรง
• 5. แบบสองตัวตรง

1. รูปแบบการเล่นชุดใหญ่ Big

สำหรับรูปแบบการเล่นแบบชุดใหญ่ คือการซื้อเลขแบบ 4 ตัวตรงชุดใหญ่ชุดเดียว แต่ว่าสามารถตรวจได้ถึง 5 รางวัล ตั้งแต่รางวัลที่ 1 -รางวัลที่ 5 ซึ่งในแต่ละรางวัลนั้นจะมีเงินรางวัลต่างกัน ตามข้อมูลในตารางด้านล่างนี้

ตัวอย่างเช่น

• ซื้อเลขชุดใหญ่ 4 ตัวตรงเลข 8625 จำนวน 100 บาท หากผลการออกรางวัลเลขสี่ตัว ของรางวัลที่ 1 – รางวัลที่ 5 ออกผลตรงกับเลขที่ท่านซื้อไว้ เช่น รางวัลที่ 1 (A1) ออกผลเลข 8625 นั่นหมายความว่าท่านถูกรางวัลแบบชุดใหญ่ ในรางวัลที่ 1 (A1) และ จำนวนเงินรางวัลที่ท่านจะได้ทั้งหมดก็คือ 100 x 2,000 = 200,000 บาท

2. รูปแบบการเล่นชุดเล็ก small

สำหรับรูปแบบการเล่นชุดเล็ก คือการซื้อเลข 4 ตัวตรงชุดเล็กชุดเดียว แต่ว่าสามารถตรวจได้ถึง 3 รางวัล ตั้งแต่รางวัลที่ 1 – รางวัลที่ 3 และในแต่ละรางวัลนั้นจะมีเงินรางวัลแตกต่างกัน ตามรายละเอียดในตารางด้านล่างนี้

ตัวอย่างเช่น

ซื้อเลขชุดเล็ก 4 ตัวตรงเลข 3895 จำนวน 100 บาท หากผลการออกรางวัลเลขสี่ตัว ของรางวัลที่ 1 – รางวัลที่ 3 ออกผลตรงกับเลขที่ท่านซื้อไว้ เช่น รางวัลที่ 2 (B1) ออกผลเลข 3895 นั่นหมายความว่าท่านถูกรางวัลแบบชุดเล็ก ในรางวัลที่ 2 (B1) และจำนวนเงินรางวัลที่ท่านจะได้ทั้งหมดก็คือ 100 x 2,000 = 200,000 บาท

3. รูปแบบการเล่น 4 ตัวตรง (มี 3 รางวัล)

ส่วนรูปแบบการเล่น 4 ตัวตรง คือการซื้อเลข 4 ตัวแบบเจาะจงตัวเลขและตำแหน่ง ทั้งนี้จะเจาะจงรางวัลที่ซื้อด้วย ว่าเลขทั้ง 4 ตัวนั้น จะออกตรงตามรางวัลที่ซื้อไหม และในการตรวจผลรางวัล ถ้าซื้อเลข 4 ตัวในรางวัลไหนก็ต้องตรวจผลในรางวัลนั้น

ตัวอย่างเช่น

ซื้อเลข 4 ตัวตรงเลข 7998 ในรางวัลที่สาม (C1) จำนวน 100 บาท หากผลของรางวัลที่สาม (C1) ออกผลเลข 7998 นั่นหมายความว่า ท่านถูกรางวัลเลข 4 ตัวตรงในรางวัลที่สาม (C1) และท่านจะได้เงินรางวัลจากการแทงหวยทั้งหมดเท่ากับ
100 x 4,500 = 450,000 บาทนั่นเอง

4. รูปแบบการเล่น 3 ตัวตรง (มี 3 รางวัล)

สำหรับรูปแบบการเล่น 3 ตัวตรง คือการซื้อเลข 3 ตัว แบบเจาะจงตัวเลขและตำแหน่ง รวมถึงเจาะจงรางวัลที่ซื้อด้วย ว่าเลขทั้ง 3 ตัวนั้น จะออกผลตรงตามรางวัลที่ซื้อไหม และในส่วนของการออกผลรางวัล จะอิงผลจากเลขท้ายสามตัวของรางวัลที่ 1 (A1), รางวัลที่สอง (B1) และรางวัลที่สาม (C1) ค่ะ และสำหรับการตรวจผลรางวัลถ้าหากท่านซื้อเลข 3 ตัวในรางวัลไหน ท่านก็ต้องตรวจผลในรางวัลนั้นค่ะ

ตัวอย่างเช่น

ซื้อเลข 3 ตัวตรงเลข 895 ในรางวัลที่สอง (B1) จำนวน 100 บาท ในการตรวจผลรางวัลท่านต้องตรวจผลในรางวัลที่สอง (B1) ซึ่งหากผลของรางวัลที่สอง (B1) ออกผลมาเป็นเลข 3895 ตามที่ท่านซื้อ นั่นหมายความว่าท่านถูกรางวัลเลข 3 ตัวตรงในรางวัลที่สอง (B1) และท่านจะได้เงินรางวัลจากการแทงหวยทั้งหมดเท่ากับ 100 x 600 = 60,000 บาทนั่นเอง

5. รูปแบบการเล่น 2 ตัวตรง (มี 3 รางวัล)

สำหรับรูปแบบการเล่น 2 ตัวตรงนี้ คือการซื้อเลข 2 ตัว แบบเจาะจงตัวเลขและตำแหน่ง และเจาะจงรางวัลที่ซื้อด้วย ซึ่งในการออกผลรางวัล จะอิงผลจากเลขท้ายสามตัวของรางวัลที่ 1 (A1), รางวัลที่สอง (B1) และรางวัลที่สาม (C1) และในส่วนของการตรวจผลรางวัล หากท่านซื้อเลข 2 ตัวในรางวัลไหนท่านก็ต้องตรวจผลในรางวัลนั้น

ตัวอย่างเช่น

ซื้อเลข 2 ตัวตรงเลข 98 ในรางวัลที่สาม (C1) จำนวน 100 บาท ในการตรวจผลรางวัล ท่านต้องตรวจผลในรางวัลที่สาม (C1) ซึ่งหากผลรางวัลที่สาม (C1) ออกผลมาเป็นเลข 7998 ตามที่ท่านซื้อ นั่นหมายความว่าท่านถูกรางวัลเลข 2 ตัวตรงในรางวัลที่สาม (C1) และท่านจะได้เงินรางวัลทั้งหมดเท่ากับ 100 x 70 = 7,000 บาทนั่นเอง

เมื่อรู้แล้วว่า อัตราจ่ายหวยมาเลย์ในประเทศมาเลยเซียจ่ายเท่าไหร่ ต่อไปเราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราจ่ายหวยมาเลย์ในประเทศไทยกันเลย

อัตราจ่ายในประเทศไทย

สำหรับอัตราจ่ายหวยมาเลย์ในประเทศไทย จะจ่ายตามรูปแบบการเล่นใต้ดินที่มีด้วยกันทั้งหมด 6 รูปแบบหลักๆ ซึ่งโดยรวมแล้วเว็บหวยออนไลน์หลายเว็บไซต์ ได้กำหนดอัตราจ่ายของหวยมาเลย์ไว้ ดังนี้

• รูปแบบการเล่นสามตัวบน มีอัตราจ่ายบาทละ 750 ซึ่งผลรางวัลจะอิงจากเลขท้ายสามตัวของรางวัลที่1 (A1)
• สามตัว โต๊ดมีอัตราจ่ายบาทละ 120 ซึ่งผลรางวัลจะอิงจากเลขท้ายสามตัวของรางวัลที่1 (A1)
  **โดยตัวเลขทั้ง 3 ตัวนั้นสามารถออกสลับตำแหน่งกันได้**
• สองตัวบน มีอัตราจ่ายบาทละ 90 ซึ่งผลรางวัลจะอิงจากเลขท้ายสองตัวของรางวัลที่ 1 (A1)
• สองตัวล่าง มีอัตราจ่ายบาทละ 90 ซึ่งผลรางวัลจะอิงจากเลขท้ายสองตัวของรางวัลที่ 2 (B1)
• เลขวิ่งบน มีอัตราจ่ายบาทละ 3.2 ซึ่งผลรางวัลจะอิงจากเลขท้ายสามตัวของรางวัลที่1 (A1)
• เลขวิ่งล่าง มีอัตราจ่ายบาทละ 4.2 ซึ่งผลรางวัลจะอิงจากเลขท้ายสองตัวของรางวัลที่ 2 (B1)

ทิ้งท้าย หวยมาเลย์บาทละเท่าไหร่

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราจ่ายที่แอดได้อธิบายไปเมื่อสักครู่นี้ ทุกท่านก็ได้รู้แล้วว่า อัตราจ่ายหวยมาเลย์ในประเทศที่ทำการออกผลรางวัลอย่างประเทศมาเลเซีย และ ในประเทศไทยนั้นมีราคาจ่ายแตกต่างกันชัดเจน นอกจากนี้แอดเคยเขียนรีวิวสอนวิธีเล่นหวยมาเลย์ไว้แล้ว ยังไงท่านลองเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ วิธีเล่นหวยมาเลย์ สำหรับวันนี้แอดต้องขอตัวลาไปก่อนนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

melotto888